การจัดเมนูอาหารพลังงานต่ำในแต่ละวัน


กินผลไม้เพิ่ม 2-3 ส่วน และนมปราศจากไขมันหรือนมไขมันต่ำ 1-2 แก้ว จะได้รับพลังงานเพิ่มจาก 838-945 กิโลแคลอรี เป็นประมาณ 1,171-1,247 กิโลแคลอรี โดยมีการกระจายพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต ร้อยละ 61-67 โปรตีนร้อยละ 16-21 และไขมันร้อยละ 14-22  ปกติค่าการกระจายพลังงานจากสารอาหารหลักสำหรับบุคคลทั่วไปควรเป็นดังนี้ คือพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตประมาณร้อยละ 45-65 โปรตีนร้อยละ 10-35 และไขมันร้อยละ 20-35 สำหรับตัวอย่างอาหารพลังงานต่ำที่จัดไว้ในแต่ละวัน ส่วนใหญ่มีค่าการกระจายพลังงานอยู่ในเกณฑ์ที่แนะนำ โดยโปรตีนมีค่าอยู่ในช่วงที่แนะนำทั้ง 7 วัน ส่วนคาร์โบไฮเดรต มีค่าอยู่ในเกณฑ์ที่แนะนำเป็นส่วนใหญ่ มีเพียงบางวันที่อาจมีค่าสูงเล็กน้อย ขณะที่ไขมันจะมีค่าต่ำกว่าที่แนะนำบ้างในบางวัน ทั้งนี้การที่ไขมันมีปริมาณน้อยจะดีสำหรับการลดน้ำหนักและบุคคลที่มีไขมันในเลือดสูง  อย่างไรก็ตามถ้าปริมาณไขมันที่ได้รับในแต่ละวันน้อยเกินไป อาจทำให้ได้รับกรดไขมันจำเป็น รวมทั้งวิตามินอีไม่เพียงพอ ดังนั้นในการปรุงอาหารจึงควรใช้น้ำมันประเภทที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว หรือน้ำมันข้าวโพด ฯลฯ  ส่วนปริมาณใยอาหารสำหรับตัวอย่าง รายการอาหาร 3 มื้อทั้ง 7 วัน อยู่ในช่วง 11.7-17.0 กรัม หรือร้อยละ 47-68 ของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคใน 1 วัน ดังนั้น การรับประทานผลไม้เพิ่ม 2-3 ส่วนจะได้รับใยอาหารเพิ่มขึ้นและเพียงพอในแต่ละวัน สำหรับการกินผลไม้และนมอาจกินหลังมื้ออาหาร หรือกินเป็นอาหารว่างก็ได้ ขึ้นอยู่กับบริโภคนิสัยของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตามการกินอาหารแต่ละมื้อในปริมาณน้อย แต่เพิ่มจำนวนมื้อ อาจช่วยให้ควบคุมความหิวได้ดีขึ้น โดยเฉพาะระยะแรกของการลดน้ำหนักตัว

ส่วนการจัดรายการอาหาร 1,500 กิโลแคลอรีสามารถดัดแปลงได้จากรายการ อาหาร 1,200 กิโลแคลอรี โดยเพิ่มปริมาณข้าวกล้องจาก 2 ทัพพีเล็ก (120 กรัมหรือประมาณถ้วยตวง) เป็น 3 ทัพพีเล็ก (180 กรัมหรือประมาณ 1 ¼ ถ้วยตวง) จะได้พลังงานเพิ่ม 85 กิโลแคลอรี และเพิ่มกับข้าวในอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งอีก 1 เมนู (จากเมนูกับข้าว 35 เมนู ซึ่งให้พลังงาน 103-273 กิโลแคลอรี) ถ้าพลังงานยังไม่เพียงพอ เพิ่มผลไม้ได้อีก 1-2 ส่วน ซึ่งจะทำให้ได้พลังงานเพิ่ม 60-120 กิโลแคลอรี


พบกับคอลัมน์น่าอ่านจากหนังสือและแมกกาซีนดังๆ อีกหมื่นกว่าเล่มได้ที่ แอปพลิเคชั่น Ookbee